Fortune Teller | ทำไม?!? ดูไพ่สำนักไหนก็ไม่แม่น!!
ทำไม?!? ดูไพ่สำนักไหนก็ไม่แม่น!!
//Content นี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว … ส่วนตัว… ย้ำว่าส่วนตัว โปรดใช้จักรยานในการอ่าน
//Content นี้ ล่อ
มากๆ
สายดูดวงหลายคนอาจจะมีความรู้สึกว่าไม่ว่าจะไปดูดวงกับหมอไหนๆก็รู้สึกว่าไม่แม่น ทั้งที่ก่อนที่จะไปดูดวงก็ศึกษารีวิวหมอๆอย่างดี แต่พอไปดูเองทีไรก็เกิดอาการ “อีหยังวะ?!?”
ไม่รู้ว่าหมอพูดอะไร เอาเรื่องราวของใครมาเล่าก็ไม่รู้ หรือทำนายอนาคตแบบผิดที่ผิดทาง หลงล่องลอยไปในมหาจักรวาลไม่มีความแม่นเอาซะเลย แต่พอเปลี่ยนหมอไปหาหมอคนใหม่ เอ้า !! ก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิม ทำไมนะ…ทำไม
Content นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ที่ประสบพบเจอมากับตัวเอง เอาประสบการณ์การเปิดดวงมายำปัญหาเข้าด้วยกันแล้วหาข้อสรุปว่า…. ทำไมลูกดวงมักจะมาบ่นให้ฟังว่าดูดวงมาหลายหมอก็ไม่แม่น ทั้งๆที่กิตติศักดิ์ของหมอนั้นร่ำลือว่าแม่นมากๆราวกับเทพนิมิตร
ก่อนอื่นต้องมาเคลียร์ใจกันก่อนว่าการดูดวงนั้นเป็นการดูดวงในศาสตร์ไหน ระบุกันไปให้ชัดเจนไปเลย ซึ่งปัจจุบันการดูดวงจะมีหลายศาสตร์ให้เลือกตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นโหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์สากล โหราศาสตร์ยูเรเนียน คัมภีร์มหาสัตตเลข เลขศาสตร์ หัตถศาสตร์หรือที่เรารู้จักกันว่าดูลายมือนั่นแหละ สำหรับใครที่มีศรัทธามากๆหน่อยก็อาจจะไปดูดวงในกลุ่มของจิตสัมผัสหรือญาณทิพย์ รวมไปถึงนั่งทางในต่างๆ แต่สำหรับ Content นี้ขอโฟกัสไปในเรื่องของ กลุ่มการพยากรณ์แบบสุ่ม หรือพวกสุ่มเลือกไพ่ต่างๆเท่านั้น
จักรวาลการดูดวงด้วยไพ่ในยุคสมัยนี้สามารถเข้าถึงง่ายๆเรามีหมอดูไพ่ทาโรต์ดาษดื่นอยู่เต็มไปหมด บางคนเรียกตัวเองว่าหมอดู บางคนก็ได้เรียกตัวเองว่านักอ่านไพ่ ซึ่งนอกจากไพ่ทาโรต์แล้วก็จะรวมไปถึงกลุ่มไพ่อื่นๆที่เป็นเครื่องมือของการพยากรณ์ไพ่ Romance Angel ไพ่พรหมญาณ และไพ่ออราเคิลต่างๆซึ่งค่าครูก็แล้วแต่ความสะดวกของนักพยากรณ์และกระเป๋าสตางค์ของลูกดวง
การทำนายที่แม่นยำต้องใช้อะไรบ้าง… สำคัญที่สุดคือต้องใช้สื่อกลางในการสื่อสารในที่นี้ก็คือไพ่ ณ จุดนี้ นักพยากรณ์จะพูดเองลอยๆไม่ได้ถ้าหากไม่มีภาพนำหรือสื่อกลางนำความคิด นักพยากรณ์ทุกคนรวมไปถึงลูกดวงหลายๆคนเชื่อว่าไพ่ไม่เคยโกหก ดังนั้น เราจะตั้งต้นว่าไพ่พูดความจริงเสมอ ส่วนเรื่องต่อมาก็คือทักษะของคนอ่านไพ่ว่าจะอ่านภาพหรือสัญลักษณ์ที่เห็นในภาพนั้นอย่างไร ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับ sense ของคนอ่านไพ่ (ถ้าคุณเชื่อว่าเรื่อง Sense มีจริง) ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะมี sense สำหรับบางคนอาจจะมีแค่จินตนาการเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่านักพยากรณ์บางคนที่อ่านไพ่อาจจะทำได้แค่เพียงอ่านไพ่โดยที่ไม่ได้ทำนายอะไร ในขณะที่บางคนอ่านไพ่เป็นคำทำนาย ณจุดนี้อย่าเพิ่งงง ซึ่งหมายความว่าสำหรับคนที่ไม่มี sense อาจจะเล่าเรื่องอะไรไม่รู้ออกมาซึ่งมันอาจจะตรงหรือไม่ตรงก็ไม่มีใครทราบได้ จะถามว่าสอดคล้องกับหน้าไพ่ที่เห็นไหมก็อาจจะสอดคล้องหรือไม่สอดคล้องก็ได้เช่นกัน
ส่วนสำคัญที่สุดของการพยากรณ์ก็คือการสื่อสารกับลูกดวง จุดนี้สำคัญมากๆ หลายครั้งนักพยากรณ์เองก็สงสัยว่าเรื่องราวที่เพิ่งพูดออกไปนั้นเป็นเรื่องราวของใครกันแน่ บางทีลูกดวงก็ดูไม่หือไม่อือ หรือหืออือแบบงงๆ จริงๆแล้วลูกดวงหลายคนมีเรื่องราว มีสตอรี่ที่คาดหวังอยู่ในหัวเอาไว้อยู่แล้ว แค่อยากจะรับฟังคำทำนายจากหมอดูเพื่อสร้างความมั่นใจกับตัวเอง และมักชอบใช้คำว่า “คอนเฟิร์มอะไรบางอย่าง” ในจุดนี้หากนักพยากรณ์ไม่ได้พูดตามความคิดของลูกดวง… นั่นก็หมายความว่ามีโอกาสสูงมากที่จะถูก lebel ว่า “ไม่แม่น” และเป็นเรื่องปกติมากที่นักพยากรณ์มักจะทำนายแบบล่องเรือข้ามมหาสมุทร… ลูกดวงเองก็มักจะปล่อยให้นักพยากรณ์พูดไปเรื่อยๆ (พิสูจน์ความแม่นไง) ส่วนนักพยากรณ์ก็พูดไปเรื่อยๆตามภาพที่เห็น อ่ะ !! นั่นก็เข้าใจว่าเป็นพิธีกรรมพิสูจน์ความแม่น แต่พอมาถึงเรื่องราวหลักๆที่สนใจอยากรู้จริง ๆ ก็กลับไม่รู้ทิศรู้ทางซะอย่างนั้น
หลายเรื่องราวที่ได้รับการแบ่งปันมา คือ หมอบอกว่า “ถ้าได้แล้วจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้” แต่สุดท้ายมันไม่ได้ล่ะ อ้าว… นี่ก็ไม่แม่นนี่!! จนมาเจอกับตัวเองจึงได้แกะไปทีละประเด็นและเข้าใจได้ว่า “เส้นทางหลักของเนื้อเรื่องมันควรจะมีแค่หนึ่งเดียว” พอมาเจอคำถามที่ว่า “พี่คะ… ช่วงนี้อยากจะเปลี่ยนงานค่ะเพราะที่ทำงานทำแล้วไม่สบายใจ หนูอยากถามว่าหนูจะได้เปลี่ยนงานไหมคะ” คำตอบก็คือ “ไม่ได้เปลี่ยนงานในช่วงนี้ครับ” แต่มันก็มีคำถามต่อว่า “แต่ถ้าเกิดว่าหนูได้เปลี่ยนงานเนี่ยชีวิตหนูจะดีขึ้นไหมคะและถ้ายังไงเนี่ยหนูจะไปสมัครงานที่นี่ดีไหมคะ” เอ้อ…อ้า… ณ ตำแหน่งนี้จะมีนักพยากรณ์หลายคนทำนายต่อ “ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนงานจะได้เจองานที่ถูกใจ บลา ๆ ๆ” หลังจากก็คงจะได้คุยกันอีกยาว แต่เดี๋ยวก่อนนะ !! กลับไปดูที่คำตอบของคำถามแรกใหม่ “ไม่ได้เปลี่ยนงานในช่วงนี้ครับ” ย้ำอีกทีหนึ่ง “ไม่ได้เปลี่ยนงานในช่วงนี้ครับ” ดังนั้นคำตอบของคำถามถัดมามันคืออะไร มันคือ “If event” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจินตนาการใช่มั๊ย… ก็บอกไปแล้วว่าจะไม่ได้เปลี่ยนงาน แล้วคำทำนายต่อมามันหมายถึงอะไร !?!?
บ่อยๆที่จะได้เจอคำถามว่า “ในความสัมพันธ์ครั้งนี้หนูไปควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้ดีคะ” (ภาษาการดูดวงด้วยไพ่ที่ชำนาญมาก ๆ) คำตอบมันก็จะมีแค่ 2 อย่างครับ คือ “ไปต่อ” หรือ “พอแค่นี้” แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าการทำนายจะเป็นอย่างไร “หนูก็ไม่ได้พอนะคะ” จากประสบการณ์การทำนายของพี่เองทั้งหมด พี่จะไม่ได้มีแค่ 2 ตัวเลือกเท่านั้นเพราะมันจะมีคำว่า “หนูไม่เคยพอค่ะ” หรือ “พี่เชื่อว่าหนูไม่ได้หยุด” ไม่รู้ทำไมว่าหนูจะต้องแหย่เขาตลอด ต้องให้เขากลับมาสนใจ หรือพยายามให้เขากลับมาเคลียร์ เพราะเขาไม่ตอบก็ร้อนใจเหมือนเดิม!! ในประเด็นนี้เป็นประสบการณ์ตรงไม่ต้องเปิดไพ่ทำนาย แต่ให้กลับไปจัดระเบียบความคิดและจัดการตัวเองให้ดีก่อน คงไม่มีใครอยากจะมามีความสัมพันธ์กับคนที่มีอาการความสัมพันธ์เป็นพิษหรอกเนาะ
อย่างไรก็ตาม… ในความเห็นของตัวเองคิดว่าหมอดูก็จะต้องเดา ถ้าไม่เดาก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป แต่มันเป็นการเดาอย่างมีหลักการ… รวมไปถึงการใช้ประสบการณ์ต่างๆเข้ามาร่วมในการพยากรณ์ เชื่อว่าหมอดูไม่ได้เห็นภาพอนาคตทุกคนหรอก เขาก็แค่อ่านไปตามหน้าไพ่และใช้ความรู้สึกในการสื่อสารที่แวบขึ้นมาในความคิด ส่วนมันจะถูกหรือมันจะผิดมันก็เป็นเรื่องของ sense ของนักพยากรณ์ และบุญกรรมสัมพันธ์กับลูกดวงคนนั้น
หน้าที่ของนักพยากรณ์ไพ่ทาโรต์ก็คืออ่านตามหน้าไพ่ แล้ว heal ใจลูกดวงเท่าที่จะทำได้ ส่วนจะเจอลูกดูแบบไหนก็ขึ้นอยู่แต่บุญกรรมของนักพยากรณ์เช่นกัน ^^
ถ้าคุณลูกดวงอยากจะใช้ประโยชน์จากการดูดวงอย่างเต็มที่ที่สุด หากเป็นไปได้ก็ให้เล่าปัญหาให้หมอดูฟังตรงๆ ไม่ต้องลองเชิง ลองภูมิ ลองครูของเขาหรอกครับ เขาจะได้ไม่ต้องพายเรือหว่านแหในจักรวาลอยู่นานสองนาน… โดยไม่รู้ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร เชื่อว่าถ้าเขาเข้าใจปัญหาที่แท้จริงเขาจะมีคำปรึกษาดีๆให้กับลูกดวงอย่างแน่นอน ลูกดวงเองก็คงไม่ต้องไปแสวงหาหมอดูที่ไหน ๆ มาดูดวงซ้ำไปซ้ำมาอีก
ว่าแต่… การรู้อนาคตในทุกๆเรื่องแล้ว ชีวิตมันยังจะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นอีกละ ?!?
หมายเหตุ : ทุกคนรู้แฟนคลับรู้ ลูกดวงโดนพี่นัทด่า… เป็นเรื่องปกติ
รักนะชุ้บ ๆ !!!
พี่นัทผู้ไม่เอาใจลูกดวง 555
//Content นี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว … ส่วนตัว… ย้ำว่าส่วนตัว โปรดใช้จักรยานในการอ่าน
//Content นี้ ล่อ
มากๆสายดูดวงหลายคนอาจจะมีความรู้สึกว่าไม่ว่าจะไปดูดวงกับหมอไหนๆก็รู้สึกว่าไม่แม่น ทั้งที่ก่อนที่จะไปดูดวงก็ศึกษารีวิวหมอๆอย่างดี แต่พอไปดูเองทีไรก็เกิดอาการ “อีหยังวะ?!?”
ไม่รู้ว่าหมอพูดอะไร เอาเรื่องราวของใครมาเล่าก็ไม่รู้ หรือทำนายอนาคตแบบผิดที่ผิดทาง หลงล่องลอยไปในมหาจักรวาลไม่มีความแม่นเอาซะเลย แต่พอเปลี่ยนหมอไปหาหมอคนใหม่ เอ้า !! ก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิม ทำไมนะ…ทำไม
Content นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ที่ประสบพบเจอมากับตัวเอง เอาประสบการณ์การเปิดดวงมายำปัญหาเข้าด้วยกันแล้วหาข้อสรุปว่า…. ทำไมลูกดวงมักจะมาบ่นให้ฟังว่าดูดวงมาหลายหมอก็ไม่แม่น ทั้งๆที่กิตติศักดิ์ของหมอนั้นร่ำลือว่าแม่นมากๆราวกับเทพนิมิตร
ก่อนอื่นต้องมาเคลียร์ใจกันก่อนว่าการดูดวงนั้นเป็นการดูดวงในศาสตร์ไหน ระบุกันไปให้ชัดเจนไปเลย ซึ่งปัจจุบันการดูดวงจะมีหลายศาสตร์ให้เลือกตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นโหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์สากล โหราศาสตร์ยูเรเนียน คัมภีร์มหาสัตตเลข เลขศาสตร์ หัตถศาสตร์หรือที่เรารู้จักกันว่าดูลายมือนั่นแหละ สำหรับใครที่มีศรัทธามากๆหน่อยก็อาจจะไปดูดวงในกลุ่มของจิตสัมผัสหรือญาณทิพย์ รวมไปถึงนั่งทางในต่างๆ แต่สำหรับ Content นี้ขอโฟกัสไปในเรื่องของ กลุ่มการพยากรณ์แบบสุ่ม หรือพวกสุ่มเลือกไพ่ต่างๆเท่านั้น
จักรวาลการดูดวงด้วยไพ่ในยุคสมัยนี้สามารถเข้าถึงง่ายๆเรามีหมอดูไพ่ทาโรต์ดาษดื่นอยู่เต็มไปหมด บางคนเรียกตัวเองว่าหมอดู บางคนก็ได้เรียกตัวเองว่านักอ่านไพ่ ซึ่งนอกจากไพ่ทาโรต์แล้วก็จะรวมไปถึงกลุ่มไพ่อื่นๆที่เป็นเครื่องมือของการพยากรณ์ไพ่ Romance Angel ไพ่พรหมญาณ และไพ่ออราเคิลต่างๆซึ่งค่าครูก็แล้วแต่ความสะดวกของนักพยากรณ์และกระเป๋าสตางค์ของลูกดวง
การทำนายที่แม่นยำต้องใช้อะไรบ้าง… สำคัญที่สุดคือต้องใช้สื่อกลางในการสื่อสารในที่นี้ก็คือไพ่ ณ จุดนี้ นักพยากรณ์จะพูดเองลอยๆไม่ได้ถ้าหากไม่มีภาพนำหรือสื่อกลางนำความคิด นักพยากรณ์ทุกคนรวมไปถึงลูกดวงหลายๆคนเชื่อว่าไพ่ไม่เคยโกหก ดังนั้น เราจะตั้งต้นว่าไพ่พูดความจริงเสมอ ส่วนเรื่องต่อมาก็คือทักษะของคนอ่านไพ่ว่าจะอ่านภาพหรือสัญลักษณ์ที่เห็นในภาพนั้นอย่างไร ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับ sense ของคนอ่านไพ่ (ถ้าคุณเชื่อว่าเรื่อง Sense มีจริง) ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะมี sense สำหรับบางคนอาจจะมีแค่จินตนาการเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่านักพยากรณ์บางคนที่อ่านไพ่อาจจะทำได้แค่เพียงอ่านไพ่โดยที่ไม่ได้ทำนายอะไร ในขณะที่บางคนอ่านไพ่เป็นคำทำนาย ณจุดนี้อย่าเพิ่งงง ซึ่งหมายความว่าสำหรับคนที่ไม่มี sense อาจจะเล่าเรื่องอะไรไม่รู้ออกมาซึ่งมันอาจจะตรงหรือไม่ตรงก็ไม่มีใครทราบได้ จะถามว่าสอดคล้องกับหน้าไพ่ที่เห็นไหมก็อาจจะสอดคล้องหรือไม่สอดคล้องก็ได้เช่นกัน
ส่วนสำคัญที่สุดของการพยากรณ์ก็คือการสื่อสารกับลูกดวง จุดนี้สำคัญมากๆ หลายครั้งนักพยากรณ์เองก็สงสัยว่าเรื่องราวที่เพิ่งพูดออกไปนั้นเป็นเรื่องราวของใครกันแน่ บางทีลูกดวงก็ดูไม่หือไม่อือ หรือหืออือแบบงงๆ จริงๆแล้วลูกดวงหลายคนมีเรื่องราว มีสตอรี่ที่คาดหวังอยู่ในหัวเอาไว้อยู่แล้ว แค่อยากจะรับฟังคำทำนายจากหมอดูเพื่อสร้างความมั่นใจกับตัวเอง และมักชอบใช้คำว่า “คอนเฟิร์มอะไรบางอย่าง” ในจุดนี้หากนักพยากรณ์ไม่ได้พูดตามความคิดของลูกดวง… นั่นก็หมายความว่ามีโอกาสสูงมากที่จะถูก lebel ว่า “ไม่แม่น” และเป็นเรื่องปกติมากที่นักพยากรณ์มักจะทำนายแบบล่องเรือข้ามมหาสมุทร… ลูกดวงเองก็มักจะปล่อยให้นักพยากรณ์พูดไปเรื่อยๆ (พิสูจน์ความแม่นไง) ส่วนนักพยากรณ์ก็พูดไปเรื่อยๆตามภาพที่เห็น อ่ะ !! นั่นก็เข้าใจว่าเป็นพิธีกรรมพิสูจน์ความแม่น แต่พอมาถึงเรื่องราวหลักๆที่สนใจอยากรู้จริง ๆ ก็กลับไม่รู้ทิศรู้ทางซะอย่างนั้น
หลายเรื่องราวที่ได้รับการแบ่งปันมา คือ หมอบอกว่า “ถ้าได้แล้วจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้” แต่สุดท้ายมันไม่ได้ล่ะ อ้าว… นี่ก็ไม่แม่นนี่!! จนมาเจอกับตัวเองจึงได้แกะไปทีละประเด็นและเข้าใจได้ว่า “เส้นทางหลักของเนื้อเรื่องมันควรจะมีแค่หนึ่งเดียว” พอมาเจอคำถามที่ว่า “พี่คะ… ช่วงนี้อยากจะเปลี่ยนงานค่ะเพราะที่ทำงานทำแล้วไม่สบายใจ หนูอยากถามว่าหนูจะได้เปลี่ยนงานไหมคะ” คำตอบก็คือ “ไม่ได้เปลี่ยนงานในช่วงนี้ครับ” แต่มันก็มีคำถามต่อว่า “แต่ถ้าเกิดว่าหนูได้เปลี่ยนงานเนี่ยชีวิตหนูจะดีขึ้นไหมคะและถ้ายังไงเนี่ยหนูจะไปสมัครงานที่นี่ดีไหมคะ” เอ้อ…อ้า… ณ ตำแหน่งนี้จะมีนักพยากรณ์หลายคนทำนายต่อ “ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนงานจะได้เจองานที่ถูกใจ บลา ๆ ๆ” หลังจากก็คงจะได้คุยกันอีกยาว แต่เดี๋ยวก่อนนะ !! กลับไปดูที่คำตอบของคำถามแรกใหม่ “ไม่ได้เปลี่ยนงานในช่วงนี้ครับ” ย้ำอีกทีหนึ่ง “ไม่ได้เปลี่ยนงานในช่วงนี้ครับ” ดังนั้นคำตอบของคำถามถัดมามันคืออะไร มันคือ “If event” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจินตนาการใช่มั๊ย… ก็บอกไปแล้วว่าจะไม่ได้เปลี่ยนงาน แล้วคำทำนายต่อมามันหมายถึงอะไร !?!?
บ่อยๆที่จะได้เจอคำถามว่า “ในความสัมพันธ์ครั้งนี้หนูไปควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้ดีคะ” (ภาษาการดูดวงด้วยไพ่ที่ชำนาญมาก ๆ) คำตอบมันก็จะมีแค่ 2 อย่างครับ คือ “ไปต่อ” หรือ “พอแค่นี้” แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าการทำนายจะเป็นอย่างไร “หนูก็ไม่ได้พอนะคะ” จากประสบการณ์การทำนายของพี่เองทั้งหมด พี่จะไม่ได้มีแค่ 2 ตัวเลือกเท่านั้นเพราะมันจะมีคำว่า “หนูไม่เคยพอค่ะ” หรือ “พี่เชื่อว่าหนูไม่ได้หยุด” ไม่รู้ทำไมว่าหนูจะต้องแหย่เขาตลอด ต้องให้เขากลับมาสนใจ หรือพยายามให้เขากลับมาเคลียร์ เพราะเขาไม่ตอบก็ร้อนใจเหมือนเดิม!! ในประเด็นนี้เป็นประสบการณ์ตรงไม่ต้องเปิดไพ่ทำนาย แต่ให้กลับไปจัดระเบียบความคิดและจัดการตัวเองให้ดีก่อน คงไม่มีใครอยากจะมามีความสัมพันธ์กับคนที่มีอาการความสัมพันธ์เป็นพิษหรอกเนาะ
อย่างไรก็ตาม… ในความเห็นของตัวเองคิดว่าหมอดูก็จะต้องเดา ถ้าไม่เดาก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป แต่มันเป็นการเดาอย่างมีหลักการ… รวมไปถึงการใช้ประสบการณ์ต่างๆเข้ามาร่วมในการพยากรณ์ เชื่อว่าหมอดูไม่ได้เห็นภาพอนาคตทุกคนหรอก เขาก็แค่อ่านไปตามหน้าไพ่และใช้ความรู้สึกในการสื่อสารที่แวบขึ้นมาในความคิด ส่วนมันจะถูกหรือมันจะผิดมันก็เป็นเรื่องของ sense ของนักพยากรณ์ และบุญกรรมสัมพันธ์กับลูกดวงคนนั้น
หน้าที่ของนักพยากรณ์ไพ่ทาโรต์ก็คืออ่านตามหน้าไพ่ แล้ว heal ใจลูกดวงเท่าที่จะทำได้ ส่วนจะเจอลูกดูแบบไหนก็ขึ้นอยู่แต่บุญกรรมของนักพยากรณ์เช่นกัน ^^
ถ้าคุณลูกดวงอยากจะใช้ประโยชน์จากการดูดวงอย่างเต็มที่ที่สุด หากเป็นไปได้ก็ให้เล่าปัญหาให้หมอดูฟังตรงๆ ไม่ต้องลองเชิง ลองภูมิ ลองครูของเขาหรอกครับ เขาจะได้ไม่ต้องพายเรือหว่านแหในจักรวาลอยู่นานสองนาน… โดยไม่รู้ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร เชื่อว่าถ้าเขาเข้าใจปัญหาที่แท้จริงเขาจะมีคำปรึกษาดีๆให้กับลูกดวงอย่างแน่นอน ลูกดวงเองก็คงไม่ต้องไปแสวงหาหมอดูที่ไหน ๆ มาดูดวงซ้ำไปซ้ำมาอีก
ว่าแต่… การรู้อนาคตในทุกๆเรื่องแล้ว ชีวิตมันยังจะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นอีกละ ?!?
หมายเหตุ : ทุกคนรู้แฟนคลับรู้ ลูกดวงโดนพี่นัทด่า… เป็นเรื่องปกติ
รักนะชุ้บ ๆ !!!
พี่นัทผู้ไม่เอาใจลูกดวง 555
รู้สึกยังไงกับเรื่องนี้…บอกหน่อย
