Destiny Cost | ทำไมดูดวงแล้วจะต้องมีค่าครู

บทความนี้เป็นบทความสั้น ๆ ที่เขียนด้วยความเข้าใจของตัวเองล้วน ๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านมากๆ 

การดูดวงเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อการบรรเทาความทุกข์ของบรรดาลูกดวงต่างๆที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในวัฏจักรของโลก ตราบใดที่ยังวนเวียนอยู่ในจักรวาลเดียวกันนั้น ก็จะยังคงมีเรื่องกังวลให้ครุ่นคิดวนเวียนไปจนบางคนอาจจะแทบทำอะไรในชีวิตประจำวันไม่ได้เลย

หมอดู โหร นักพยากรณ์ (ซึ่งแล้วแต่จะเรียก) จะเป็นบุคคลสำคัญที่จะเข้ามาช่วยบรรเทาความทุกข์ร้อนในใจ ลูกดวงจะได้รับคำพยากรณ์ คำแนะนำที่จะไปปรับใช้ในชีวิต ส่วนนักพยากรณ์ให้ก็จะได้รับค่าตอบแทนที่เราเรียกกันอย่างติดปากว่า “ค่าครู” ซึ่งเป็นค่าตอบแทนจากต้นทุนสำหรับการเรียนรู้การพยากรณ์ ต้นทุนอุปกรณ์ การแบ่งสรรปันส่วนเพื่อไปทำบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวรของเจ้าของชะตา แล้วเป็นกุศลต่อเจ้าของชะตา นักพยากรณ์ เจ้ากรรมนายเวรและอื่นๆตามความเชื่อของแต่ละคน แต่ละสำนัก รวมไปเงินอีกส่วนหนึ่งเป็นรายได้ของผู้พยากรณ์เอง

ปัจจุบันนี้มีนักพยากรณ์มากมายในจักรวาล บางท่านก็เป็นนักพยากรณ์อาชีพ บางท่านก็เป็นนักพยากรณ์ยามว่างพยากรณ์ขำๆ บางท่านก็จะเป็นนักพยากรณ์ฟรีแลนซ์ เจ้าของชะตาก็สามารถเลือกนักพยากรณ์ได้ตามอัธยาศัย นอกเหนือจากความแม่นยำที่เลื่องลือกันแล้ว… ค่าใช้จ่ายก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวตัดสินใจเลือกนักพยากรณ์ให้เข้ามาทำนายดวงชะตา

บ่อยครั้งที่จะมีนักพยากรณ์เปิดรับทำนายโดยไม่คิดค่าครู ซึ่งในจุดนี้ก็อาจจะเป็นเทคนิคทางการตลาดของนักพยากรณ์ รวมไปถึงการต้องการฝึกการทำนาย หรือว่าอาจจะเป็นการทำนายเพื่อความสนุกเฉพาะกลุ่ม อันนี้ก็สุดแล้วแต่… นักพยากรณ์บางท่านก็เปิดรับพยากรณ์ด้วยความเป็นกุศลจริงๆ บางท่านไม่ได้ระบุค่าครูก็แล้วแต่จะให้ตามศรัทธา… ซึ่งก็เป็นข้อตกลงกันระหว่างนักพยากรณ์กับเจ้าของดวงชะตา

โดยปกติ… นักพยากรณ์จะเปิดให้มีการจองคิวโดยโอนค่าครูมาให้ก่อนแล้วค่อยจองเวลาทีหลัง ก็เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะได้ทำนายดวงชะตาในเวลานั้นจริงๆ เพราะว่าบ่อยครั้งการจองคิวด้วยคำพูดลอย ๆ ก็เหมือนไม่ได้เป็นพันธสัญญาอะไร พอถึงเวลาเจ้าของดวงชะตาก็หายไปซะดื้อๆ บางคนก็เลื่อนเวลาออกไปเรื่อยๆ ตรงนั้นก็เป็นสิทธิของผู้บริโภค (อยากทำอะไรก็ทำ) ในมุมของนักพยากรณ์จะต้องมีการลำดับคิวก่อนหลัง รวมถึงวางแผนการใช้ชีวิตของตัวเอง ดังนั้น ทุกครั้งที่มีเจ้าของดวงชะตาเทนักพยากรณ์ นักพยากรณ์จะต้องจัดระเบียบชีวิตใหม่ทั้งหมด !! ถ้าอ้างอิงเรื่องของการจองเวลาแล้วไม่มานัด… ซึ่งในกรณีนี้จะเอาการกวดวิชาเป็นหลักที่จองติวเตอร์ไว้แล้วไม่มาเรียนตามนัดติวเตอร์ก็มีสิทธิ์ริบเงินรายชั่วโมงครั้งนั้นไป… ด้วยหลักการเดียวกัน… นักพยากรณ์ก็น่าจะมีสิทธิ์ริบเงินจองในกรณีที่เจ้าของดวงชะตาเทนัด ส่วนเรื่องเทแล้วจะเลื่อนเป็นวันอื่น เวลาไหนก็สุดแล้วแต่ที่นักพยากรณ์กับเจ้าของโดยชะตาจะตกลงกันเอง โดยปกติแล้วนักพยากรณ์จะใจดีหาเวลาใหม่ให้… แต่เวลาที่นัดเอาไว้เดิมก็เสียไปโดยเปล่าประโยชน์… และด้วยจุดนี้เองก็เป็นเรื่องที่ไม่แปลกที่นักพยากรณ์จะไม่ลงเวลานัดให้หากเจ้าของดวงชะตาไม่ได้โอนเงินค่าครูเพื่อมาจองคิวสำหรับทำหลักประกันว่าจะมารับคำพยากรณ์จริง ๆ

สำหรับในกรณี “ดูก่อนจ่ายทีหลัง” แบบนี้เป็นกรณีวัดใจสุด ๆ (ส่วนตัวไม่เคยเจอนะ…แต่ตั้งใจดูฟรีจริงๆน่ะเจอบ่อย) ปัญหาจุดนี้ก็คือนัดแล้วไม่มาตามนัด… นักพยากรณ์ก็จะนั่งรอเก้อแบบงง ๆ ซึ่งนั่นก็หมายความว่านักพยากรณ์อาจจะเสียช่วงเวลาที่นัดไปเปล่าประโยชน์ (ตรงนี้แนะนำให้นักพยากรณ์รับจองคิวด้วยการโอนดีกว่า…เซฟกว่าเยอะ)

กรณีสุดท้าย คือ ดูดวงกันแบบฟรี ๆ ชนิดที่ว่าตั้งใจจะมาขอดูดวงด้วยอาศัย “น้ำใจ” และ “ความสนิทสนม” ของนักพยากรณ์แบบเนียน ๆ (ตรงนี้ขอหมายเหตุข้อยกเว้นเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างคนสองคนด้วยนะครับ เผื่อเป็นการดูฟรีสำหรับการเกื้อกูลกัน) จริงอยู่… ที่นักพยากรณ์ไม่ได้เสียอะไรเป็นเงินทองจากการพยากรณ์นั้น แต่คำถามคือ… ทำไมนักพยากรณ์จะต้องวางภารกิจของตัวเองมาทำนายดวงชะตาให้ใครสักคนนึงโดยที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์ และก็เป็นฝ่ายเสียประโยชน์ในรูปของเวลาในการทำงาน สุขภาพจิตสำหรับเคสที่วนเวียนกับเรื่องเดิมๆ (เจ้าของดวงชะตาบางท่านก็ควรจะไปขอพรจากเทพมากกว่ามาดูดวง) เสียเวลาพักผ่อนนอนหลับ… จริงอยู่ที่วิชาความรู้เกี่ยวกับพยากรณ์ไม่ได้สึกหรอจากการพยากรณ์ใด ๆ (ตรงนี้ก็ไม่ได้นับค่าเสื่อมอุปกรณ์ด้วยนะ) อ๋อ… อาจจะเป็นการสะสมกุศลของนักพยากรณ์ก็ได้!?! จุดนี้ให้นักพยากรณ์จัดการตัวเองนะเถอะครับ

การตั้งอัตรา “ค่าครู” เป็นเทคนิคหนึ่งของการคัดกรองเจ้าของดวงชะตา… เพราะว่าอย่างน้อยหากมีค่าครู (ซึ่งอาจจะแพง) ก็จะเป็นข้อจำกัดสำหรับเจ้าของดวงชะตาในการเข้าถึงการพยากรณ์ระดับหนึ่ง จะได้ไม่ต้องดูดวงพร่ำเพรื่อ และก็จะทำให้เจ้าของดูชะตาได้ทบทวนปัญหาของตัวเองไปแล้วในระดับหนึ่ง… และจะขอรับคำทำนายจากทรัพยากรในกรณีที่ต้องการแก้ปัญหาของตัวเองจริงๆ

เฮ้อ… ขาดตรงไหนไปบ้างก็ไม่รู้… เอาไว้เติมต่อไปงวดหน้า
แต่อย่าลืมว่า… นักพยากรณ์ในโซเชียลมีจำนวนมากกว่าดวงดาวในจักรวาล